Bangpakok Hospital

ยุงลายวายร้าย ไข้เลือดออก

13 พ.ค. 2567



โรคไข้เลือดออกเป็นที่โรคที่ระบาดทุกปี จะพบได้บ่อยในเด็กที่มีอายุระหว่าง 5 – 14 ปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนเดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน ในแต่ละปีจะมีผู้เสียชีวิตจากไข้เลือดออกเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปี 2567 อัตราการป่วยตายไข้เลือดออกอยู่ที่ 0.11% เสียชีวิตแล้วกว่า 29 ราย เพราะฉะนั้นการรู้เท่าทันโรคและป้องกันอย่างถูกวิธี รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกย่อมช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงจากโรคไข้เลือดออกได้

รู้จัก โรคไข้เลือดออก

​เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue Virus) 1 ใน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1, DENV-2, DENV-3 DENV-4 โดยมียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรค หลังถูกยุงกัดและได้รับเชื้อเป็นเวลา 5 - 8 วัน จะมีอาการของโรคอย่างชัดเจน

อาการของโรคไข้เลือดออกมีกี่ระยะ ?

​การติดเชื้อไวรัสเดงกี่ครั้งแรกผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง ถ้าเป็นการติดเชื้อครั้งที่สองอาจมีอาการรุนแรงเกิดเป็นภาวะไข้เลือดออกได้ โดยอาการของโรคแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 : ระยะไข้สูง

- มีไข้สูงถึง 38-40 องศาเซลเซียส

- หน้าแดง โดยเฉพาะบริเวณตาและใบหน้า มักจะแดงกว่าปกติ

- มีอาการไอ เจ็บคอ

- เบื่ออาหาร มีอาการซึม และอาจมีอาการปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือ ชายโครง

- มีผื่นขึ้น หรือพบว่า มีจุดเลือดออกขึ้นตามลำตัว แขน ขา

ระยะที่ 2 : ระยะวิกฤติ จะเกิดประมาณวันที่ 3-6 หลังจากระยะไข้สูงระยะหนึ่งแล้ว ไข้จะลดลงอย่างรวดเร็ว

- มือ เท้าเย็น มีอาการเหนื่อยล้า หายใจลำบาก

- ปวดท้อง ท้องอืด

- เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน หรืออาจมีอาเจียนเป็นเลือด

- ปัสสาวะออกน้อย

- อุจจาระดำ

- เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล

- ความดันโลหิตไม่สม่ำเสมอ ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว หรือช็อก อาจเสียชีวิตได้

ระยะที่ 3 : ระยะฟื้นตัว เป็นระยะหลังไข้ลงโดยไม่มีอาการช็อก

โดยเกล็ดเลือดจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ชีพจรและความดันโลหิตเริ่มคงที่ดีขึ้น อาการทั่วไปจะดีขึ้น เด็กจะเริ่มอยากอาหาร ปัสสาวะออกมากขึ้น เด็กบางคนอาจมีผื่นแดงคันตามตัว ตลอดระยะเวลาของโรคมักไม่เกิน 9 วัน ถ้าอาการไม่รุนแรงประมาณ 3-4 วัน อาการจะดีขึ้นได้เอง

เช็กสัญญาณเสี่ยงลูกน้อยป่วยเป็นไข้เลือดออก..!!!

หากลูกน้อยมีอาการดังกล่าว แม้ว่าไข้เริ่มจะลดลงแล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่างนิ่งนอนใจ ควรต้องไปพบแพทย์ทันที

- ไข้ลงหรือไข้ลดลงแต่อาการแย่ลง ยังเบื่ออาหาร ไม่ค่อยเล่น และอ่อนเพลีย

- คลื่นไส้ อาเจียน ตลอดเวลา

- ปวดท้องมาก

- มีเลือดออกมาก เช่น เลือดกำเดาไหล อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ

- พฤติกรรมของเด็กเปลี่ยนไปจากปกติ

- กระหายน้ำตลอดเวลา

- ร้องกวนมากในเด็กเล็ก

- ตัวเย็น สีผิวคล้ำลง หรือตัวลาย

- ปัสสาวะน้อยลง หรือไม่ถ่ายปัสสาวะนานเกิน 4- 6 ชั่วโมง

การตรวจวินิจฉัยโรคไข้เลือดออก

- ซักประวัติและตรวจร่างกาย

- ตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค เช่น ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC) เพื่อหาความผิดปกติของเม็ดเลือดขาว ความเข้มข้นของเลือดและจำนวนเกล็ดเลือด และการตรวจ NS1Ag ต่อเชื้อเดงกี่ หรือภูมิต่อการติดเชื้อเดงกี่ IgM, IgG

เสริมภูมิด้วยวัคซีน..ดีต่อลูกน้อยอย่างไร !!

​การฉีดวัคซีนเปรียบเสมือนเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค โดยวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสเด็งกี่ สามารถป้องกันเชื้อไวรัสเด็งกี่ได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 4 - 60 ปี สามารถฉีดได้ทั้งผู้ที่เคยเป็นแล้ว และยังไม่เคยเป็นโรคไข้เลือดออก นอกจากนี้ยังสามารถฉีดได้โดยไม่ต้องทำการตรวจเลือดใดก่อนการฉีดวัคซีน โดยฉีดเพียง 2 เข็ม ห่างกัน 3 เดือน (เดือน 0 และ 3) ซึ่งวัคซีนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไข้เลือดออกจากทุกสายพันธุ์ได้สูงถึง 80.2% และป้องกันการนอนโรงพยาบาลได้สูงถึง 90.4%
แพ็กเกจวัคซีนไข้เลือดออก(เด็ก) : https://www.bangpakok3.com/package/view/246
แพ็กเกจวัคซีนไข้เลือดออก(ผู้ใหญ่) : https://www.bangpakok3.com/package/view/247

โรคไข้เลือดออกถือเป็นภัยอันตรายที่น่ากังวล เพราะอาการสามารถเพิ่มความรุนแรงขึ้นได้ทุกเมื่อ หากลูกน้อยมีอาการไข้สูงหลายๆ วัน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรพาลูกมาพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง ถ้าหากล่าช้าเกินไปอาจมีภาวะช็อกและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

ขอบคุณที่มาข้อมูล : พญ.นฤมล เมธาเธียร

กุมารเวชศาสตร์โรคติดเชื้อ ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลบางปะกอก 3

ติดตามช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ของโรงพยาบาลบางปะกอก 3

Facebook : https://www.facebook.com/bangpakok3

LINE O/A : https://page.line.me/947ptrfh

YouTube : https://shorturl.asia/qjUJc

TikTok : https://shorturl.asia/dP5Z0

 

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.