Bangpakok Hospital

ภาวะแทรกซ้อนในโรคเบาหวาน

1 ก.ย. 2568


เมื่อมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติเป็นระยะเวลานาน น้ำตาลที่สูงขึ้นจะส่งผลโดยตรงต่อหลอดเลือดทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่  โดยทำให้เกิดภาวะอักเสบและภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ง่ายกว่าคนปกติ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยในภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง ทำให้น้ำตาลส่วนเกินนั้นไปเกาะกับเม็ดเลือดขาวที่ใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้เม็ดเลือดขาวมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายมากขึ้น

ภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวาน แบ่งเป็น ภาวะเฉียบพลัน เช่น น้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงรุนแรง และ ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรัง เช่น ภาวะแทรกซ้อนทางตา (ตาบอด), ไตเสื่อม (ไตวาย), เส้นประสาทเสื่อม (ชาปลายมือปลายเท้า, แผล), หลอดเลือดหัวใจและสมองตีบ (หัวใจวาย, อัมพาต), ปัญหาเท้า และปัญหาผิวหนัง. การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีอยู่เสมอจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้.

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน

  1. ภาวะแทรกซ้อนทางตา

ภาวะแทรกซ้อนทางตา หรือ เบาหวานขึ้นตา คือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง ส่งผลต่อจอประสาทตาทำให้เกิดจอประสาทตาเสื่อม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดจอประสาทตาลอกจนทำให้ตาบอดได้ในที่สุด  และนอกจากนี้ผู้ป่วยเบาหวานยังเสี่ยงต่อภาวะต้อกระจก ต้อหินได้มากกว่าคนปกติ

  1. ภาวะแทรกซ้อนทางไต

ภาวะแทรกซ้อนทางไต หรือ เบาหวานลงไต ในช่วงระยะเริ่มแรก ไตจะมีการทำงานที่หนักขึ้น เนื่องจากน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น จะส่งผลให้มีแรงดันเลือดไปที่ไตสูงตามไปด้วย ถ้าหากตรวจการทำงานของไตในช่วงระยะนี้ จะไม่พบความผิดปกติ การตรวจปัสสาวะอาจมีหรือยังไม่มีโปรตีนไข่ขาว (อัลบูมิน) รั่วออกมากับปัสสาวะ ระยะถัดมาจะเริ่มพบมีโปรตีนไข่ขาวปนออกมากับปัสสาวะ และอาจมีการทำงานของไตที่ลดลงเล็กน้อย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี การทำงานของไตจะลดลงเรื่อย ๆ และอาจดำเนินไปถึงภาวะไตวายเรื้อรังจนถึงขั้นต้องทำการล้างไต

  1. เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน

อาการเส้นเลือดแดงใหญ่อุดตันมักเกิดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณขา ซึ่งอาการที่พบได้บ่อย คือ มีอาการปวดขามากเมื่อเดินหรือวิ่ง และดีขึ้นเมื่อพักหรือห้อยขาลงที่ต่ำ ปลายเท้าจะเย็น ขนขาร่วง ผิวหนังบริเวณขาเงามัน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดอุดตันจนปลายเท้าขาดเลือด ติดเชื้อ และอาจจะต้องตัดนิ้วเท้า หรือตัดขาทิ้งในที่สุด

  1. เส้นเลือดหัวใจตีบตัน

ภาวะนี้เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง โดยเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือหากตีบรุนแรงอาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย ส่งผลให้การบีบตัวของหัวใจลดลง เกิดหัวใจวาย ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเสียชีวิตเฉียบพลันได้

  1. เส้นเลือดสมองตีบ

เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เมื่อเกิดภาวะเส้นเลือดสมองตีบ ทำให้การทำงานของสมองและเส้นประสาทขาดเลือดหรือไม่ทำงาน ส่งผลให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด หรือมีอาการชาครึ่งซีก

  1. ภาวะแทรกซ้อนทางเส้นประสาท

ภาวะนี้เป็นภาวะที่พบบ่อยที่สุด คือผู้ป่วยมักมีอาการชาปลายมือ ปลายเท้า ในบางรายอาจมีอาการเจ็บแปลบๆเหมือนโดนเข็มแหลม ๆ ทิ่ม บางคนมีอาการแสบร้อนบริเวณปลายมือปลายเท้า โดยอาการทางระบบประสาทที่พบได้แต่ไม่บ่อย เช่น เหงื่อไม่ออกหรือออกง่ายกว่าปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ กลืนสำลัก ท้องอืดง่าย จุกแน่นลิ้นปี่ ซึ่งเป็นอาการของระบบประสาทที่ควบคุมการบีบเคลื่อนตัวของทางเดินอาหารผิดปกติ

การป้องกัน

  • ควบคุมระดับน้ำตาล ความดันโลหิต ไขมันในเลือด และน้ำหนักตัว ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • รับประทานอาหารที่เหมาะสม ทั้งชนิดและปริมาณ จำกัดอาหารจำพวก ข้าว แป้ง เครื่องดื่มมีน้ำตาล ขนมหวาน เบเกอรี่ รวมถึงรับประทานผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • กรณีที่มียา ควรรับประทานยาหรือฉีดยาสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม นอกจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานมีอาการที่รุนแรง และก่อให้เกิดภาวะทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตได้ แต่ถ้าหากเราทราบสาเหตุของโรคเบาหวานและทำการตรวจวินิจฉัยโรคได้ตั้งแต่ระยะแรก และผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ก็สามารถลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้

ที่มาข้อมูล: โลกเบาหวาน (Diabetes World Thailand) ,กรมควบคุมโรค

ติดตามช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ของโรงพยาบาลบางปะกอก 3

Facebook : https://www.facebook.com/bangpakok3 

LINE O/A : https://page.line.me/947ptrfh 

YouTube : https://shorturl.asia/qjUJc 

TikTok : https://shorturl.asia/dP5Z0 

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.