Bangpakok Hospital

เคล็ดไม่ลับ..กับการดูแลช่องปากและฟันให้ลูกน้อย

16 ก.ย. 2563

วิธีดูแลช่องปากและฟันของลูกน้อยให้สวยงามแข็งแรง

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่ช่วงวัยอายุประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมจะเริ่มขึ้นให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นโดยฟันน้ำนมจะขึ้นจนครบและอยู่จนถึงอายุ 11-12 ปี หลังจากนั้นฟันแท้ก็จะเริ่มขึ้นมาทดแทน ซึ่งในช่วงที่ฟันน้ำนมขึ้นถือว่าเป็นช่วงสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลช่องปากและฟันของลูกให้เป็นอย่างดี เพราะการมีเหงือกและฟันน้ำนมที่สมบูรณ์แข็งแรงจะส่งผลต่อฟันแท้ที่จะขึ้นมาให้ดูเป็นระเบียบร้อยและสวยงาม โดยในช่วงที่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้นลูกน้อยจะมีอาการเจ็บในช่องปาก ระบมเหงือก หรือฟันจนไม่อยากเคี้ยวหรือกินอาหาร ซึ่งจะส่งผลในด้านโภชนาการตามมา คือ อาจจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และอาจส่งผลกับการเจริญเติบโตของกระดูกขากรรไกรทำให้กระดูกขากรรไกรเจริญได้ไม่เต็มที่ส่งผลให้พัฒนาการด้านการพูดการออกเสียงของลูกไม่ชัดเจนตามมาด้วย

เราจะดูแลสุขภาพช่องปากเด็กแต่ละวัยอย่างไร

ในช่วงเด็กแรกเกิด ช่วงแรกเกิดที่ลูกยังฟันไม่ขึ้น สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าสะอาดนุ่มๆ เช็ดทำความสะอาดเหงือกลูกเบาๆ หลังดูดนมเสร็จ เช็ดบริเวณกระพุ้งแก้มและลิ้นด้วย

ช่วงเด็กอายุ 6 เดือน ควรพาลูกไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและให้ฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ หรือเมื่อฟันน้ำนมขึ้นแล้ว ควรใช้นิ้วพันผ้าถูทำความสะอาดที่บริเวณฟันของลูกให้สะอาดเช่นเดียวกับการทำความสะอาดเหงือก ในช่วงนี้ฟันของลูกยังเล็กอยู่ ทำให้การแปรงฟันโดยใช้แปรงสีฟันไม่สะดวกเมื่อเทียบกับการใช้ผ้าพันนิ้วของคุณแม่

ช่วงเด็กอายุ 1-3 ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่ฟันของลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และสามารถเริ่มใช้แปรงสีฟันสำหรับเด็กได้แล้ว คุณแม่ควรเริ่มสอนลูกแปรงฟัน โดยลองแปรงฟันให้ลูกก่อน และฝึกให้ลูกรู้จักการบ้วนน้ำก่อนที่จะให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง เพราะหากลูกเผลอกลืนยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้าไปก็อาจส่งผลเสียกับฟันของลูกได้

ช่วงเด็กอายุเด็ก 3-4 ปี เด็กเริ่มแปรงฟันเองได้แล้ว แต่ก็คงต้องคอยตรวจเช็คความสะอาดหลังแปรงฟันทุกครั้ง นอกจากนี้ควรพาลูกไปพบหมอฟันเป็นประจำเพื่อเช็คสุขภาพปากและฟัน รวมถึงรับคำแนะนำในการดูแล เพราะเด็กวัยนี้ชอบกินขนมขบเคี้ยว หรือบางกิจกรรมอาจทำให้มีปัญหาฟันได้ เช่น การว่ายน้ำ เป็นต้น

ช่วงเด็กอายุเด็ก 6 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นมาทดแทนแล้ว ทำให้ฟันน้ำนมจะเริ่มโยกและหลุดไปเอง แต่หากฟันแท้ขึ้นมาแล้ว แต่ฟันน้ำนมยังไม่ยอมหลุดนานเกิน  3 เดือน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา หรือ ถอนฟันน้ำนมออกเพื่อฟันแท้จะได้ขึ้นได้อย่างเป็นระเบียบ


วิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูก

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติหวาน หรือ ขนมที่มีน้ำตาล
  • แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งคือ เช้า และ ก่อนนอน หรือ ควรแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร
  • พาลูกไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่เด็กๆ
  • สอนลูกบ้วนปากและแปรงฟันให้ได้ด้วยตัวเอง เมื่อลูกสามารถบ้วนปากได้อาจเริ่มสอนให้ลูกแปรงฟันด้วยตัวเอง โดยการจับมือลูกหัดก่อน และใช้ยาสีฟันขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว รวมทั้งเลือกยาสีฟันสำหรับเด็กที่ไม่มีฟลูออไรด์ 


เคล็ดลับการการเลือกยาสีฟันและแปรงสีฟันสำหรับเด็ก

  • ให้ลูกเลือกแปรงสีฟันรวมถึงอุปกรณ์การแปรงฟันตามที่ลูกชื่นชอบ เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากแปรงฟัน
  • การเลือกแปรงสีฟันควรเลือกให้เหมาะสมในแต่ละวัย และให้เหมาะกับขนาดปากและฟันของลูก ขนต้องนุ่ม ที่จับต้องถนัดกับมือเด็กจะทำให้จับได้ถนัดมือ
  • เลือกยาสีฟันที่มีกลิ่นและรสผลไม้ที่เด็กชอบ และควรเลือกยาสีฟันที่มีไซลิทอล หรือสารให้ความหวานจากธรรมชาติคุณภาพสูงที่ไม่ก่อให้เกิดฟันผุ
  • เลือกยาสีฟันที่ไม่มีสารโซเดียม ลอรีล ซัลเฟต หรือ SLS เพื่อความปลอดภัยของเด็ก
  • การเลือกยาสีฟัน ควรเลือกยาสีฟันสูตรปราศจากฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันการเผลอกลืนยาสีฟันโดยไม่ตั้งใจ โดยยาสีฟันที่ไม่มีฟลูออไรด์ในบางชนิดจะทดแทนด้วยแคลเซียม และ ฟอสเฟต ซึ่งจะช่วยป้องกันฟันผุอย่างได้ผลเช่นเดียวกัน
 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายได้ที่แผนกทันตกรรม โทร.0-2109-3111 ต่อ 1334 , 1335

 

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.